19 พฤษภาคม 2568

BJC Healthcare เดินหน้าสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับ BLC เสริมศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมยาและสุขภาพประเทศไทยอย่างยั่งยืน พร้อมหนุนผลิตภัณฑ์สุขภาพคุณภาพเข้าถึงได้ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BJC Healthcare เดินหน้าสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมยาและสุขภาพ ของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงและความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับ BLC เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมตั้งเป้าผลิตสินค้า ภายใต้แบรนด์ BJC Healthcare ระยะแรกให้พร้อมภายในไตรมาส 4 ปี 2568

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (“BJC”)/ บริษัท บีเจซี เฮลท์แคร์ จำกัด (“BJC Healthcare”) โดย นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และภญ. ปาณิสรา ไชยรุ่งรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจเวชภัณฑ์ และบริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) (“BLC”) โดย ภก. สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ภก.สมชัย พิสพหุธาร ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชี และการเงิน ร่วมลงนามความร่วมมือ

พิธีลงนามจัดขึ้น ณ อาคารบีเจซีเฮ้าส์ สำนักงานใหญ่ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสององค์กรร่วมเป็นสักขีพยาน การลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนานวัตกรรมในกลุ่มเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ BJC Healthcare โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและประชาชน พร้อมผลักดันการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้อย่างยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยาและสุขภาพในภูมิภาคเอเชีย

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล เปิดเผยว่า “BJC Healthcare กลุ่มธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเวชภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์จากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานทั่วโลก ภายใต้การบริหารงานของ BJC ร่วมกับ BLC ผู้เชี่ยวชาญการผลิตและศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพชั้นนำ ร่วมกันวางแผนพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมในกลุ่มเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยอาศัยจุดแข็งของ BLC ที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ยา การผลิตและการควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน GMP-PIC/S ผสานกับศักยภาพของ BJC ที่มีความแข็งแกร่งในด้านการจัดจำหน่าย กลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างแบรนด์ และเครือข่ายจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน คลินิก และร้านขายยาทั่วประเทศ โดยความร่วมมือครั้งนี้ให้ BLC จะเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ BJC Healthcare ในระยะแรกคาดมูลค่า 50 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ปี 2568 ก่อนจะต่อยอดไปสู่การร่วมลงทุนในระยะยาว

การจับมือกันในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดวิสัยทัศน์ของ BJC ในการเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและเครื่องมือแพทย์คุณภาพระดับสากล เพราะทั้งยังส่งเสริมพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ BJC Healthcare ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากปัจจุบันดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยา สินค้าความงาม และเครื่องมือแพทย์ จากแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาตอบโจทย์ผู้ป่วยและประชาชน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการขยายตลาดทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมวางรากฐานสู่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC กล่าวว่า BLC เป็นหนึ่งในผู้นำการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยบริษัทฯ มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ประกอบด้วย ศูนย์วิจัยบีแอลซี (BLC Research Center) โรงงานส่วนการผลิต และระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับสากล และได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ตลอดจนมีการนำมาใช้ในระบบสุขภาพทั้ง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลเอกชน รวมถึงคลีนิค และร้านขายยาทั่วไป ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางสุขภาพให้แก่คนไทย พร้อมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง BLC กับ BJC Healthcare นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการยาไทย ที่จะเปิดประตูให้คนไทยทุกระดับเข้าถึงยาคุณภาพเยี่ยมได้อย่างทั่วถึงและสะดวกยิ่งขึ้น ผ่านความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญในการวิจัยและผลิตของ BLC ผสานกับเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งและทรงประสิทธิภาพของ BJC อาทิ ห้างบิ๊กซี ซึ่งพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้จะไม่เพียงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศในภาพรวมอีกด้วย” ภก.สุวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย